คนดูคลิป 2 ล้าน! แห่ซูมป้ายแดง สาวขับรถจะไปร้านกาแฟเขาค้อ เจอฤทธิ์ GPS แกงพาไปทางโหด สุดท้ายติดเหง็กกลางเขา
วันที่ 7 ก.พ.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้บัญชี tiktok ชื่อ “tulip_kunyapak” ได้คลิปพร้อมแคปชั่นว่า “รีวิวการใช้กูเกิ้ลแมพมาเที่ยวร้านกาแฟที่เขาค้อ” ในคลิปจะเห็นรถยนต์ป้ายแดงที่ผู้โพสต์เป็นคนขับ ตั้งใจจะไปร้านกาแฟแห่งหนึ่งบนเขาค้อ แต่กลับถูก Google map นำทางมายังถนนที่เป็นดินและเป็นร่องลึก อีกทั้งยังค่อยๆ ขึ้นไปบนภูเขาที่เต็มไปด้วยป่าหญ้าสูงชันไปเรื่อยๆ กระทั่งรถมาติดร่องน้ำอยู่กลางเขา จนต้องจ้างรถโฟวิลของชาวบ้านมาช่วยลาก
หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา มีผู้เข้ามาชมเกือบ 2 ล้าน พร้อมทั้งแชร์ต่อไปและเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก เช่น
“เคยเจอเหมือนกันค่ะ แต่ไม่โหดแบบนี้ ตอนไปวัดพระธาตุดอยคำจังหวัดเชียงใหม่ ให้อ้อมในพืชสวนโลกแบบว่าป๊าดสเกิ๊ตหน้าหลุด แต่งวดนั้นก็คือหวยออกป้ายทะเบียนเลยจ้ะ”
“เคยเหมือนกัน google map ตอนไปประชาอุทิศมันจะให้ขับลงแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วตอนนั้นตีสองด้วย”
“54 45 มาแน่ ๆ เลยค่ะ งวด 16 ก.พ.”
“ทางประมาณนี้เคยเจอมาแล้ว ใช้โหมดขับสี่ยังไม่รอดเลย”
“บอกสามพันก็ต้องจ่ายจังหวะนั้น”
“นึกถึงคนที่ขับรถขึ้นสะพานแขวนเลยคือแบบบบบ”
“ผมเจ้าถิ่นแท้ๆ เห็นถนน วีโก้ผมก็ถอยแล้วครับ”
“Google Map เคยพาเลี้ยวเข้าวัดตอน 2 ทุ่ม นี้ขนลุกเลย ดีที่กลับตัวทัน”
“เคยไปค่าเส้นทางนี้เลย แต่โหดกว่าคือตอนนั้นฝนตกด้วย เลยตัดสินใจกลับรถทันค่ะ ไม่งั้นตุยแน่ เพิ่งรู้ว่าเส้นทางโหดก็จากคลิปพี่ทิวลิปนี่แหละค่ะ”
ต่อมา ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังผู้โพสต์ ซึ่งเปิดเผยว่าตนและเพื่อนขับรถขึ้นไปเที่ยวเขาค้อ โดยตั้งใจว่าจะไปเที่ยวร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับทุ่งกังหันลม จึงได้เปิด Google map นำทาง ทีแรกก็เป็นถนนลูกรังธรรมดา แต่สักพักก็ขึ้นเขาไปเรื่อยๆ และทางก็เริ่มแคบลง แต่ Google map บอกว่าอีกประมาณ 15 นาทีถึง ตนเห็นว่าอีกนิดเดียวก็คงถึงจึงไปต่อ แต่พอมาถึงจุดซึ่งเป็นทางขึ้นเนิน ปรากฏว่าถนนเป็นร่องค่อนข้างลึกที่คาดว่าเกิดจากน้ำกัดเซาะ ตนพยายามประคองรถแต่สุดท้ายก็ตกร่องไม่สามารถขึ้นมาได้
หลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์ให้เพื่อนมาช่วย แต่ก็ไม่สามารถเอารถขึ้นได้อยู่ดี สุดท้ายเพื่อนจึงขับรถลงไปว่าจ้างคนในหมู่บ้านในราคา 1,500 บาท ให้นำรถมาช่วยดึงขึ้นและลากจูงลงไปด้านล่างได้สำเร็จ ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านทราบว่ามีรถหลงมาและขึ้นทางนี้แล้วหลายคัน จึงอยากฝากเตือนไปยังนักเดินทางว่า ถ้ารู้ว่าเส้นทางที่กำลังไปผิดปกติ ให้จอดรถแล้วหาเส้นทางใหม่ หรือไม่ก็สอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่สุด อย่ามั่นใจในระบบนำทางมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้เสียเวลา และรถชำรุดเสียหายด้วย